Saturday 19 February 2011

รอยแผลแห่งรัก

บทความหนุนใจ: รอยแผลแห่งรัก


 

 

 

รอยแผลแห่งรัก

วันหนึ่งในฤดูร้อนเมื่อหลายปีก่อนที่ตอนใต้ของรัฐฟลอริดา เด็กผู้ชายตัวน้อยๆ คนหนึ่งตัดสินใจที่จะไปว่ายน้ำเล่นในธารน้ำหลังบ้าน ด้วยความรีบร้อนที่อยากจะกระโดดลงเล่นน้ำเย็นๆ จึงวิ่งออกทางประตูหลังบ้านโดยถอดเสื้อและรองเท้าทิ้งไว้ตรงประตูนั่นเอง เขาพุ่งตัวลงน้ำทันทีโดยไม่รู้ตัวว่าในขณะที่กำลังว่ายออกไปกลางลำน้ำนั้น จระเข้ใหญ่ตัวหนึ่งก็กำลังว่ายตรงมา


คุณแม่ที่อยู่ในบ้านกำลังมองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอกและเห็นการเผชิญหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ด้วยความกลัวสุดขีดเธอจึงวิ่งออกไปจนถึงริมน้ำพลางร้องตะโกนบอกลูกชายด้วยเสียงอันดังเท่าที่เธอสามารถทำได้ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของคุณแม่ เด็กชายตัวน้อยก็ตกใจและหันหลังกลับว่ายไปหาคุณแม่ทันที ทว่ามันสายเกินไปเสียแล้ว ทันทีที่มาถึงตัวคุณแม่ จระเข้ก็มาถึงตัวพอดี เธอคว้าแขนลูกชายไว้ในขณะที่จระเข้งับเข้าที่ขา ตรงนั้นเองที่เกิดการชักกะเย่ออย่างรุนแรงระหว่างผู้เป็นแม่กับจระเข้ตัวนั้น แต่จระเข้ย่อมมีแรงมากกว่า ส่วนผู้เป็นแม่ก็รักลูกเกินกว่าที่จะปล่อยมือ ชาวนาคนหนึ่งบังเอิญผ่านมาและได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอจึงรีบวิ่งลงจากรถไถและยกปืนเล็งไปที่จระเข้และยิงทันที


เด็กน้อยคนนั้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในขณะที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายสัปดาห์ และเขาก็รอดตาย ขาทั้งสองข้างของเขามีแผลเป็นใหญ่และลึกมาก และที่แขนทั้งสองข้างก็มีรอยข่วนลึกจากการโดนจิกจากเล็บของคุณแม่ที่พยายามยื้อลูกชายที่เธอรักสุดชีวิตไว้เต็มกำลัง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ที่ไปสัมภาษณ์เด็กชายคนนั้นก็ขอดูรอยแผลของเขา เด็กชายคนนั้นก็ดึงขากางเกงขึ้น และเขาก็พูดกับผู้สื่อข่าวอย่างภาคภูมิใจอย่างยิ่งว่า “แต่ดูที่แขนของผมสิฮะ ผมมีแผลเป็นขนาดใหญ่ที่แขนด้วยนะฮะ แผลนี่น่ะเกิดขึ้นเพราะคุณแม่ของผมจับผมไว้ไม่ยอมปล่อย”


ท่านและข้าพเจ้าก็มีแผลเป็นเหมือนอย่างที่เด็กชายตัวน้อยมีบนแขนทั้งสองข้างเช่นกัน แต่มิใช่รอยแผลจากจระเข้หรือการถูกจู่โจมอย่างอื่น ทว่า...เป็นแผลเป็นแห่งอดีตที่แสนเจ็บปวด บางแห่งเกิดขึ้นจากการไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง และผลของมันก็ทำให้เราเสียใจและเจ็บปวดอยู่ในทุกวันนี้ แต่พี่น้องที่รักในพระคริสต์ บาดแผลบางแห่งเกิดขึ้นเพราะพระเจ้าทรงรักเราเกินกว่าที่จะยอมปล่อยพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงรั้งเราไว้มิให้ถลำลึกลงไปสู่ห้วงแห่งบาป ในระหว่างที่กำลังปล้ำสู้อยู่นั้น พระองค์ทรงจับแขนของเราไว้แน่น พระคัมภีร์สอนว่าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลาย หากท่านมีพระคริสต์ในชีวิตของท่าน ท่านก็กลายเป็นบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงต้องการที่จะปกป้องรักษาท่านและทรงจัดเตรียมสิ่งที่เป็นความจำเป็นของท่านในทุกเรื่อง แต่บางครั้งเราก็เดินพลัดหลงเข้าไปสู่เส้นทางชีวิตที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา หลุมพรางชีวิตนั้นเต็มไปด้วยภยันตรายใหญ่หลวง และเราก็ลืมไปว่าศัตรูตัวร้ายกำลังคอยท่าอยู่ที่จะจู่โจมเราทุกขณะ ตรงนั้นเองที่สงครามฝ่ายจิตวิญญาณเริ่มต้นขึ้น และหากคุณมีแผลเป็นแห่งรักบนแขนของคุณ จงขอบพระคุณเถิด พระองค์ทรงไม่และจะทรงไม่ปล่อยคุณให้ตกลงไปในหลุมที่ศัตรู (ซาตาน) ขุดล่อไว้อย่างเด็ดขาด


ท่านลองสำรวจตัวเองดูสิว่าท่านมีแผลเป็นแห่งรักบ้างไหม ถ้าท่านสัตย์ซื่อกับตัวเอง ท่านจะเห็นว่ามีแผลเป็นปรากฏอยู่อย่างแน่นอน แผลเป็นเหล่านั้นไม่หายแต่จะจางลงตามกาลเวลา มันจะเป็นเครื่องเตือนใจเราว่าในอดีตนั้นเราก้าวพลาดไปตรงไหนบ้าง แต่ด้วยพระคุณความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราได้รับการช่วยกู้และได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพเดิม เรากำลังดำเนินไปกับพระองค์ ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์ และดำเนินในน้ำพระทัยของพระองค์ ขอให้เหลือบมองแผลเป็นเหล่านั้นสักแวบหนึ่งและรับรู้ว่าแผลเหล่านั้นเกิดขึ้นจากความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า ข่าวประเสริฐเรื่องการไถ่บาปบนกางเขนของพระคริสต์เป็นข่าวประเสริฐที่ประกาศเรื่องความหวัง แต่มันก็เป็นข่าวประเสริฐที่ประกาศเรื่องรอยแผลแห่งรักด้วยเช่นกัน รอยแผลที่เป็นพยานหลักฐานแห่งการพลีพระชนม์บนกางเขนของพระเยซูเพื่อไถ่บาปคนทั้งโลก เมื่อคริสเตียนมองดูรอยแผลที่ปรากฏบนมือ เท้า สีข้าง และหน้าผากของพระองค์ เราต้องมองเห็นสิ่งที่อยู่ลึกกว่าภาพที่ปรากฏต่อหน้า ในรอยแผลเหล่านั้นคือความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า


ทุกครั้งที่เราเห็นแผลเป็นที่แขนของเราให้มองเห็นความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย ความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะเข้าใจได้ด้วยความรู้ของมนุษย์ ความรักนั้นไม่มีสิ่งใดเคลือบแฝง เป็นความรักที่บริสุทธิ์และเป็นพระคุณล้ำเลิศ
ทุกครั้งที่ต้องเผชิญกับการทดลองที่น่าลิ้มลองและแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่ ขอให้ทูลขอการเสริมกำลังจากองค์พระผู้เป็นเจ้าและผ่านพ้นการทดลองนั้นไปให้ได้ อย่าให้แขนของเราเต็มไปด้วยแผลจนไม่น่าดู แต่จงใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ติดสนิทกับพระองค์ เชื่อฟังพระองค์ และยอมรับและทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ ข้าพเจ้าหวังว่าในเวลาที่เราทั้งหลายกลับบ้านถาวรของเราเพื่อไปเฝ้าพระบิดานั้น แขนทั้งสองข้างของเราจะมีแผลเป็นเหลือยู่น้อยที่สุด


ขอพระเจ้าได้รับพระเกียรติสูงสุด


สิธยา คูหาเสน่ห์

No comments:

Post a Comment